การขายของออนไลน์ในยุคปัจจุบันเป็นช่องทางที่มีโอกาสทำยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ ทั้งคนที่กำลังเริ่มต้นเข้ามาวงการขายของออนไลน์ หรือคนที่มีประสบการณ์มาแล้ว สิ่งที่ท้าทายคือการทำให้สินค้าของคุณได้รับความสนใจและสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว บทความนี้จะพาลงลึกเทคนิคสำคัญในการขายของออนไลน์ ที่ไม่ใช่แค่รู้จักสินค้าอย่างเดียวแต่ยังเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อได้ทันที
รวมเทคนิคขายของออนไลน์ที่ไม่มีที่ไหนบอก
1. เลือกสินค้าตามใจลูกค้า
การเลือกสินค้าที่จะขายเป็นสิ่งแรกที่จะต้องมี หากอยากมียอดขายเพิ่มมากขึ้น เทคนิคง่ายๆคือ ทำความเข้าใจกับความต้องการของลูกค้า โดยให้มองจากมุมมองของลูกค้าเสมอสำรวจความชอบ ความพึงพอใจโดยอาศัยจากข้อมูลจริงจากลูกค้า เพราะหากสินค้าที่นำมาขายตรงกับความต้องการและตอบโจทย์กับลูกค้ามากที่สุดโอกาสที่จะขายออกได้เร็วและเพิ่มยอดขายก็จะมากขึ้น
2. เข้าใจ Pain Point ลูกค้าเอาชนะใจไปแล้วกว่าครึ่ง
การเข้าใจ Pain Point หรือปัญหาที่ลูกค้ากำลังพบเจออยู่จะช่วยให้คุณเข้าถึงความรู้สึกและสามารถเอาชนะใจลูกค้าได้ เมื่อลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าของคุณสามารถช่วยจัดการกับปัญหาได้ก็จะได้รับความไว้วางใจและโอกาสที่จะกลายเป็นลูกค้า Loyalty เพิ่มมากขึ้น
ซึ่ง Pain Point ลูกค้ามักจะมาในหลายรูปแบบ เช่น ไม่สะดวกในการใช้งาน ราคาแพงเกินไป หรือแม้กระทั่งปัญหาที่ลูกค้าอาจไม่รู้ตัว คุณสามารถค้นหา Pain Point ของลูกค้าที่แท้จริงได้ผ่านการรับฟัง สังเกตพฤติกรรมของลูกค้าในโซเชียลมีเดีย หรือการสอบถามโดยตรง เพราะเมื่อเข้าใจและหาสิ่งที่ตอบโจทย์ได้ลูกค้าก็จะเริ่มเกิดความเชื่อมั่นและตัดสินใจซื้อสินค้ามากขึ้นตาม
3.อย่า Hard Sell ทันทีแต่ค่อยๆถามความต้องการที่แท้จริง
ลูกค้าจะรู้สึกอึดอัดและกดดันทันทีถ้าโดน Hard Sell ตั้งแต่แรก วิธีที่แนะนำคือการค่อย ๆ ถามและเก็บข้อความ ทำความเข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริง อาจจะเปิดด้วยการตั้งคำถามง่าย ๆ ที่มีทำให้ดูเป็นมิตรเข้าถึงง่ายซึ่งจะช่วยสร้างความไว้วางใจ และทำให้ลูกค้าเปิดใจคุยต่อ
การใช้วิธีนี้ยังช่วยให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย และลดความรู้สึกว่าถูกกดดันให้ต้องตัดสินใจซื้อทันที การทำให้การสนทนาดูเป็นธรรมชาติและมีความใส่ใจ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้อย่างดี
4. ใช้ช่องทางการขายที่เหมาะสม
เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการมองเห็นให้สินค้าได้มากขึ้น เพราะการเลือกลงสินค้าในช่องทางแต่ละแพลตฟอร์มจะมีลักษณะที่แตกต่างกันทั้งในเรื่อง พฤติกรรม ความสนใจ และกลุ่มลูกค้าก็มีความแตกต่างกัน เช่น หากขายพวกเสื้อผ้า, รองเท้า ควรเลือกลงขายใน Shopee, Lazada มากที่สุดเพราะว่าสินค้าประเภทนี้จะต้องมีรูปที่สวย โดดเด่น มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ
แต่ถ้าขายของที่จับต้องไม่ได้เช่น ขายคอร์สเรียน, บริการต่าง ๆ แพลตฟอร์มที่ควรลงขายก็คือ Facebook หรือ เว็บไซน์ เพราะว่าจะต้องอาศัยอธิบายข้อมูลลงรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกค้าจะได้เมื่อซื้อไปแล้ว เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทะส้อนถึงความเป็นมืออาชีพ
5. โฆษณาก็มีผลให้คนซื้อ
การกระตุ้นความอยากซื้อของลูกค้าเป็นสิ่งที่หลายคนอยากให้เกิดขึ้นระหว่างขายของการโฆษณาเป็นส่วนหนึ่งของวิธีที่ช่วยเพิ่มการรับรู้ การตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วแต่จะปิดการขายได้นั้นขึ้นอยู่กับการสร้างแคมเปญ วางงบประมาณรวมไปถึง Call To Action ที่น่าดึงดูด
การโฆษณาเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยผลักดันยอดการมองเห็น, การเข้าถึงของตัวสินค้าหากใช้กลยุทธ์อย่างเหมาะสมโอกาสที่คนจะเห็นและตัดสินใจซื้อสินค้าก็จะเพิ่มขึ้น การโฆษณาออนไลน์ทำได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น Facebook Ads, Google Ads, TikTok Ads ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มมีเครื่องมือที่ช่วยเลือกกลุ่มเป้าหมาย ความชอบ ความสนใจ
นอกจากนี้แล้วทำการ SEO สามารถช่วยเพิ่มการมองเห็นได้แบบ Organic และเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Branding โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเงินให้กับค่าโฆษณา ช่วยให้ลดต้นทุนในการทำการตลาดได้ดี
6. ความน่าเชื่อถือ Branding เป็นสิ่งสำคัญที่ให้คนตัดสินใจซื้อ
การสร้าง Branding เป็นหนึ่งในเทคนิคที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้รวดเร็วมากขึ้น ปัจจุบันมีคนขายของออนไลน์เพิ่มมากขึ้น มีสินค้าที่เหมือนกันลงขายพร้อมกันหลายคน ฉะนั้นแล้วการสร้างความแตกต่าง ความไว้วางใจในด้านคุณภาพทำให้ Branding เกิดความแข็งแกร่งและลูกค้าก็จะยอมจ่ายถึงแม้ราคาจะสูงกว่าที่อื่น เพราะลูกค้าซื้อความสบายใจ การสร้างแบรนด์ไม่ใช่แค่การมีโลโก้หรือชื่อที่จดจำได้ง่ายแต่รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์ สร้างตัวตนและความรู้สึกที่ลูกค้ารับรู้จากสินค้า ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจมากขึ้นต่อสินค้าของคุณ
บนโลกออนไลน์ ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ การให้คะแนนรีวิวจากลูกค้าเก่าจะช่วยเพิ่มการตัดสินใจให้กับลูกค้าใหม่ที่กำลังลังเลว่าจะซื้อสินค้ากับแบรนด์คุณหรือไม่
การขายของออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยเทคนิคหลายด้านที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ตั้งแต่การเลือกสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า เข้าใจ Pain Point เพื่อเสนอสินค้าที่แก้ปัญหาได้จริง การหลีกเลี่ยงการขายแบบ Hard Sell และเน้นการสอบถามความต้องการของลูกค้าอย่างเป็นมิตร ใช้ช่องทางการขายที่เหมาะสมกับสินค้าและกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการใช้โฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อดึงดูดความสนใจที่สำคัญคือการสร้างแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ เทคนิคเหล่านี้หากนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องและต่อเนื่อง จะช่วยให้คุณมียอดขายออนไลน์เพิ่มมากขึ้นมีโอกาสประสบความสำเร็จในระยะยาว
Comments